8/02/2553

All About Coffee

All About Coffee

      " May I offer you a cup of espresso, Sir"  สำหรับคนบนฟ้าอย่างเรา การบริการ กาแฟเพียงหนึ่งถ้วยสามารถ สร้างปฎิสัมพันธ์ ความใส่ใจ เหนืออื่นใด ความพึงพอใจ สำหรับผู้โดยสารที่ชื่มชอบในรสชาดของกาแฟ
     เมล็ดกาแฟ ค้นพบที่ราบสูงในเอธิโอเปีย ได้แพร่กระจายไปยังอียิปต์ เยเมน และได้เดินทางไปตุรกี อาเซอร์ไปจาน เปอร์เซีย ตลอดจน อิตาลี ยุโรป เอเซีย ถึง อเมริกา


     การสั่ง "Caffe'" ในร้านทั่วไปในยุโรปตอนใต้ โดยเฉพาะ อิตาลีและฝรั่งเศส โดยทั่วไปก้คือการสั่ง เอสเพรสโซ (Espreso) ที่แปลว่า เร่งด่วน  ซึ่งเป็นกาแฟที่มีรสแก่ และเข้ม มีวิธีการชงต่าง
จากกาแฟทั่วไป ซึ่งชงแบบผ่านน้ำหยด แต่เอสเพรสโซ ชงแบบใช้แรงอัดทำให้เอสเพรสโซ มีรสชาดที่เข้มข้น และหนักแน่น จากกาแฟทั่วไป ด้วยลักษณะนี้เองทำให้คอกาแฟซึ่งดื่มเอสเพรสโซโดยไม่ปรุงด้วยน้ำตาล และนม ที่มักจะเสริฟ์เป็นชอต (แบบ แก้ว Demitasse ทีมีไว้บริการบนเครื่องบิน ในชั้นธุรกิจ และ ชั้นหนึ่ง) espresso มีความไวสูงกับการทำปฏิกิริยากับ ออ๊กซิเจน จึงควรดื่มตอนเสร็จใหม่ ๆ เพื่อไม่ให้เสียรสชาด เช่นเดียวกันหลากบดเมล็ดกาแฟเกินเวลามาตราฐาน 18-30 วินาที จะทำให้ มีรสขม bitter มีกลิ่นไหม้ burn       จากการชงแบบเครื่องอัด  หรือที่เรียกว่า overextract

      บนเครื่องบินที่มีเครื่อง individual freshly blew coffee นอกจากสามารถ ทำ espresso แล้ว ยังสามารถ extra touch กับ ผู้โดยสารได้โดยการ offer Cafe' Americano โดยใช้น้ำร้อนผสมลงไปใน espresso  ซึ่งเท่ากับดื่ม กาแฟ แก่ ๆ ธรรมดา แต่มีกลิ่น และรสชาดที่เข้มข้นของ espresso  จึงเหมาะกับคอกาแฟ ที่ชอบกาแฟดำ แต่ไม่เข้มข้นเท่า espresso
        ด้วย based ของ espresso เรายังสามารถชง Cappuccino ซึ่งต้นกำเนิด ในอิตาลี ภาษาอิตาเลียนออกเสียงว่า กัปปุชชิโน่ คนอิตาเลียน ดื่มกัปปุชิโน เป็นอาหารเช้า โดยเฉพาะ อาจมีขนมปังแผ่น หรือคุ๊กกี้ เพราะคนอิตาเลียนไม่ทานอาหารเช้าเป็นกิจจะลักษณะ ดังนั้น คาปูชิโน และขนมปังจงเป็นอาหารเช้ายอดนิยม ด้วยเหตุนี้เองทำให้คนอิตาเลียน ไม่ดื่มคาปุชิโน ในช่วงอื่น ๆ ของวัน
        Cappuchino ชงโดย espresso 1/3 + นมร้อนผ่านไอน้ำ 1/3 + นมที่ตีเป็นโฟมละเอียด 1/3 ลอยอยู่ด้านบน และอาจลอยด้วย ผงซินนามอน หรือ ผงโก้โก้
        


                   มากไปกว่านั้นเรายังสามารถชง Latte macchiato (ลาเต้ มาเกียโต้)  โดย espresso 1/3 ส่วน + นมร้อน 2/3 ส่วน +  จะหยอดโฟมลงในถ้วยหนาประมาณ 1 ซม ด้านบน ซึ่งคนฝรั่งเศส เรียกว่า กาแฟ นี้ว่า Cafe' au lait ส่วน คน อิตาลี เรียกว่า Cafe' e latte





               หากผู้โดยสารชื่นชอบ chocolatte สามารถ ชง กาแฟ       มอคค่า เพียงแค่ผสม chocolatte  ลงไปใน latte macchiato หรือ cafe' e latte เท่านั้น ก้อจะได้ Cafe' mocha ซึ่งสามารถ ชงได้ทั้งร้อน และ เย็น นี่เองทีทำให้ cafe' mocha มีกลิ่น และ สี คล้าย ชอคโกแลต

                                                   

     การชงกาแฟ และเพิ่มลวดลายต่าง ๆ ลงบนกาแฟ  หรือที่เรียกว่า ลาเต้อาร์ต ( Latte Art) ต้องอาศัยความชำนาญ โดยใช้วิธีขยับข้อมือเล็กน้อยขณะที่รินนม และ ผงกาแฟลงบนกาแฟ การจะเป็นผู้ชงการแฟที่ชำนาญงาน หรือที่ เรียกว่า Brista บาริสต้า ต้องอาศัยความรัก หรือ ต้องเข้ารับการฝึกฝนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
 สำหรับคอกาแฟ สุภาษิตของ ชาวเตอร์กีกล่าวว่า
     "Coffe should be black as hell, strong as death and sweet as love."
 คงไม่เกินจริงถ้าจะพูดว่า กาแฟทีดีควร 
       "ร้อน ดังเพลิง    หอม   ดัง  ราตรี
ขม  ดังยาพิษ   หวาน ประดุจ ความรัก"

 "Enjoy your coffee, sir"
              

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น